diff --git a/data/2024/09/08/Government News _1_53930b81-8084-45fd-83bd-3aa1a7693997.txt b/data/2024/09/08/Government News _1_53930b81-8084-45fd-83bd-3aa1a7693997.txt new file mode 100644 index 00000000..3f19ea71 --- /dev/null +++ b/data/2024/09/08/Government News _1_53930b81-8084-45fd-83bd-3aa1a7693997.txt @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-PM commits to bring back bright future to Thailand + + +วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 +08/09/2567 +พิมพ์ +PM commits to bring back bright future to Thailand +PM commits to bring back bright future to Thailand +September 7, 2024, at 11.50 hrs, at the Inner Santi Maitri Building, Government House, Prime Minister Paetongtarn Shinawatra responded to the foreign press on Thailand’s current political situation and how the Prime Minister would communicate with the global community on the country’s future and political stability. +The Prime Minister affirmed that she was ready to move forward and bring back the bright future to Thailand. What has happened with former Prime Minister Srettha Thavisin was unfortunate, but this cabinet would do its best throughout the rest of the term to translate and implement policy directives into concrete outcomes for the best interest of the Thai people. + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87809 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _1_3bc9c858-2cad-46dd-8191-b327ff12a9cd.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _1_3bc9c858-2cad-46dd-8191-b327ff12a9cd.txt" new file mode 100644 index 00000000..9a464791 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _1_3bc9c858-2cad-46dd-8191-b327ff12a9cd.txt" @@ -0,0 +1,20 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปลัด มท. เปิดศูนย์เรียนรู้บาติกโมเดลจังหวัดปัตตานี ตามพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เน้นย้ำ ผู้ว่าฯ นอภ. คือผู้นำแห่งความหวังเพื่อทำให้ประชาชน มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง จากหัตถศิลป์ + + +วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 +08/09/2567 +พิมพ์ +ปลัด มท. เปิดศูนย์เรียนรู้บาติกโมเดลจังหวัดปัตตานี ตามพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เน้นย้ำ ผู้ว่าฯ นอภ. คือผู้นำแห่งความหวังเพื่อทำให้ประชาชน มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง จากหัตถศิลป์ +ปลัด มท. เปิดศูนย์เรียนรู้บาติกโมเดลจังหวัดปัตตานี ตามพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เน้นย้ำ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ คือผู้นำแห่งความหวังเพื่อทำให้ประชาชน มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง จากหัตถศิลป์ หัตถกรรม ไม่ทำให้ความหวังเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านไป +ปลัด มท. เปิดศูนย์เรียนรู้บาติกโมเดลจังหวัดปัตตานี ตามพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เน้นย้ำ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ คือผู้นำแห่งความหวังเพื่อทำให้ประชาชน มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง จากหัตถศิลป์ หัตถกรรม ไม่ทำให้ความหวังเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านไป มุ่งมั่นทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข อย่างยั่งยืน +เมื่อวานนี้ (7 ก.ย. 67) เวลา 15.00 น. ที่วิชชาลัยบาติกโมเดล จังหวัดปัตตานี (อาคารชั่วคราว) ถนนสฤษดิ์ ตำบลสะบารัง อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานเปิดป้าย วิชชาลัยบาติกโมเดล จังหวัดปัตตานี (อาคารชั่วคราว) ตามแนวพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา "โครงการผ้าไทยให้สนุก" โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอำนาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายสนั่น สนธิเมือง นายชูชีพ ธรรมเพชร นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายวิฑูรย์ นวลนุกูล นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางวาสนา นวลนุกูล รองประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ 12 อำเภอ ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมได้รับเกียรติจากคณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ได้แก่ ดร.ศรินดา จามรมาน นักวิชาการอิสระ นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย นายศิริชัย ทหรานนท์ เจ้าของแบรนด์ THEATRE นายภูภวิศ กฤตพลนารา เจ้าของแบรนด์ ISSUE ดร.กรกลด คำสุข และ ผศ.ดร.รวิเทพ มุสิกะปาน วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มศว. นายนุวัฒน์ พรมจันทึก ช่างต้นแบบสิ่งทอ ดร.นวัตกร อุมาสิน อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.ศรีวิชัย และภาคีเครือข่าย ร่วมในงานด้วย +โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และคณะ ร่วมกันเปิดป้ายวิชชาลัยบาติกโมเดล จังหวัดปัตตานี (อาคารชั่วคราว) ตามแนวพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา "โครงการผ้าไทยให้สนุก" พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการการขับเคลื่อนบาติกโมเดลตามพระดำริฯ และปลูกต้นตะเคียนทอง ไม้มงคลประจำจังหวัดปัตตานี ไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดใหญ่ ซึ่งมีสรรพคุณทางยา เช่น แก่น ที่มีรสขมอมหวาน ช่วยแก้โลหิตและกำเดา ขับเสมหะ แก้อาการปวดฟัน แก้เหงือกบวม เป็นต้น พร้อมรับฟังการขับร้องบทเพลงความดีอยู่เหนือสิ่งอื่นใด โดยนายสมชาย นิลศรี และน้องพอเพียง นิลศรี และนำผู้ร่วมงานร่วมร้องเพลง Happy Birthday to you มอบให้กับน้องพอเพียงเนื่องในวันคล้ายวันเกิด +นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีที่ได้เป็นผู้นำการสนองพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการที่ทำให้พี่น้องชาวจังหวัดปัตตานีและชาวไทยทุกจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีโอกาสที่ดีของชีวิต ด้วยการได้รับการยกระดับพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่มาจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษส่งผ่านมาถึงรุ่นปัจจุบัน เพื่อให้เป็นเครื่องไม้เครื่องมือในการประดิษฐ์คิดค้นและรังสรรค์งานผ้าบาติก งานผ้าไทยและงานหัตถกรรมของประชาชนในทุกจังหวัด +"พระองค์ทรงเพียรพยายามในการที่จะให้พวกเราผู้เป็นข้าราชการและพสกนิกรที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ อันประกอบด้วย คนมหาดไทยและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ช่วยกันนำเอาสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตมนุษย์อันจะหนุนเสริมให้เกิดอย่างยั่งยืน คือ "ความรู้และปัญญา" เพื่อเป็นรากฐานสำคัญของการที่พวกเราจะมีโอกาสทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีที่เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน ครอบครัว สังคมและประเทศชาติของพวกเรา จึงเป็นเหตุให้พระองค์ท่านเสด็จมาทรงงานทางภาคใต้ ทั้งปัตตานีและนราธิวาส พร้อมพระราชทานลายผ้าบาติกมากถึง 8 ลาย เรียกได้ว่าภาคใต้เป็นภาคที่ได้รับพระราชทานลายผ้ามากที่สุด เพราะพระองค์ทรงทราบว่า "คนใต้มีความรักความหวงแหนผืนแผ่นดินไทย และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ" และที่สำคัญที่สุดเป็นภาคที่มีผลิตภัณฑ์อันมาจากภูมิปัญญาของตนเองในราคาที่ย่อมเยาเข้าถึงได้ ซึ่ง "กลุ่มยาริงบาติก" ภายใต้การนำของนางฮัสสือเม๊าะ ดอมะ ประธานกลุ่ม นับเป็นบ้านหลังแรก ๆ ของประเทศนี้ที่ได้รับพระกรุณาคุณจากพระองค์ท่านเสด็จไปทรงเยี่ยมและทอดพระเนตรผลงานที่อยู่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งแม้ไม่ใช่คฤหาสน์ใหญ่โตหรือเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่มีความมั่นแข็งแรงอะไรมากนัก แต่เป็นบ้านที่มีความอบอุ่นด้วยความรักความเมตตา ทั้งของเจ้าของบ้านที่มีต่อลูกหลานในชุมชน และอบอวลไปด้วยน้ำพระทัยแห่งพระกรุณาคุณที่ทรงมีแต่ความรักพสกนิกรของพระองค์ เรียกได้ว่า "สันติสุขที่เกิดจากความรักความหวังดีที่แจ่มใสจากพระกรุณาคุณ ทำให้ชีวิตของสมาชิกในกลุ่มยาริงบาติก และผู้สนใจ เข้ามาเรียนรู้ในการทำผ้าบาติกเพิ่มมากขึ้นจนสุดจะประมาณ" นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำ +นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีทำให้ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้เป็น "ศูนย์เรียนรู้บาติกจังหวัดปัตตานีที่ถาวร" เพราะอาคารหลังนี้มีคุณค่าและเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งเป็นสถาปัตยกรรมของไทยในยุคหนึ่ง ซึ่งหาดูได้ยากในปัจจุบัน โดยมีพวกเราทุกคนช่วยกันทำให้เป็นอาคารถาวร ช่วยกันทำให้เป็น "ศูนย์เรียนรู้ ศูนย์การค้าที่มั่นคง ถาวร และยั่งยืน" ตามเป้าหมายที่ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีได้ร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อการพัฒนา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน" เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มมีโอกาสที่ดีของชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน ขับเคลื่อนสนองน้ำพระทัยอันเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ด้วยความรักความห่วงใยของพระองค์ ทำให้ประชาชนมีโอกาสเรียนรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์จริง ใช้พรสวรรค์ผสมกับความรู้และประสบการณ์ พัฒนาชิ้นงานในการรับใช้คนทั้งโลกในอนาคตอันใกล้ +"คุณูปการของพระองค์ท่านนั้นมีมากเหลือคณาจนหาที่สุดมิได้ เพราะพระองค์ทรงงานอยู่บนหลักการของการสืบสาน รักษา และต่อยอด ซึ่งการสืบสานและรักษา นั้น คือ การช่วยกันทำให้สิ่งที่มีอยู่เดิมยังคงอยู่ แต่การสืบสาน รักษาต้องเท่าทันการเปลี่ยนผันตามวันและเวลาที่ก้าวเดินไม่หยุดยั้ง และเราก็จะมีคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้น "การต่อยอด" จึงมีความจำเป็น โดยเฉพาะกับสิ่งที่เราเรียกว่า แฟชั่น เพราะบาติกคือแฟชั่น ที่จะต้องมีทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ตรงตามความสนใจและความต้องการของผู้คนทุกรุ่น ดังนั้น เป้าหมายของการทำให้ภูมิปัญญาผ้าไทยและหัตถกรรมไทยมีความยั่งยืน ต้องน้อมนำแนวทางที่พระองค์พระราชทานให้นำลวดลายดั้งเดิมมาผสมกับลวดลายใหม่ และต้องมีเรื่องที่สำคัญอย่างน้อย 3 เรื่อง คือ 1. ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2. ต้องออกแบบตัดเย็บให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับความชอบของคนทุกช่วงวัย และ 3. ต้องเลือกใช้สีที่สอดคล้องกับสมัยนิยม ดังที่พระองค์พระราชทาน “Thai Textiles Trend Book” ซึ่งทรงค้นคว้าแนวโน้มแฟชั่นโลก และพระราชทานให้กับพวกเราคนไทยถึง 5 ปี ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ถือว่าเป็นความท้าทายของคนมหาดไทย เพราะคนมหาดไทยได้รับความไว้วางพระทัย ให้เป็นผู้นำ เอา knowhow ใน Thai Textiles Trend Book ไปสู่พี่น้องประชาชน" นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม +นายสุทธิพงษ์ ยังได้ฝากถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ช่วยนำพาความรัก ความเมตตาของพระองค์ท่านไปสู่พี่น้องประชาชน เพื่อให้ปีหน้า และปีต่อ ๆ ไป เราจะมีผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ผ้าบาติก และผ้าทุกชนิด ที่มีสีสันต้องกับจริตผู้คน สอดคล้องกับแฟชั่นในแต่ละสมัย ที่อาจจะทำให้คนมหาดไทยต้องทำงานหนักขึ้น ด้วยการทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข มีรายได้ที่ดีเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นปฏิบัติบูชา ถวายเป็นพระกำลังใจ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ขอให้ได้ทำให้ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้เป็น Landmark ให้ผู้คนเข้าถึงการเรียนรู้ การหาประสบการณ์ และอุดหนุนผลิตภัณฑ์ของคนปัตตานี รวมถึงพี่น้องทั่วประเทศ เพราะเป้าหมายของเราคือ "คนไทยทุกคน" รองรับความต้องการในด้านการเสาะแสวงหาองค์ความรู้และประสบการณ์และสิ่งดี ๆ ของชีวิตได้ทุกจังหวัด ทุกภูมิภาค โดยไม่หวงวิชา เป็นศูนย์กลางของคนทั้งประเทศในการเรียนรู้ซึมซับความดีงามของคนปัตตานีไปพัฒนาชีวิตตนเองในทุกด้าน +"ความปรารถนาที่ดีเหล่านี้จะเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านไป ถ้าหากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ท่านนายอำเภอ พี่น้องข้าราชการ ตลอดจนถึงภาคีเครือข่าย ไม่ลงมือทำโดยทันที แต่ตนมั่นใจว่าทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะ ทำให้เกิดรูปธรรมให้กับคนไทยทุกคน ดังที่พระองค์ท่านได้ทรงทำเป็นต้นแบบ ก็จะส่งผลโดยตรงต่อการบรรลุภารกิจบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ของพวกเราทุกคน และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เป็นการปฏิบัติบูชาถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ด้วยการทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข ด้วยการแก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย +ด้าน นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า จังหวัดปัตตานี โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดปัตตานี ร่วมกับโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จัดตั้ง "วิชชาลัยชุมชนบาติกโมเดล" (อาคารชั่วคราว) ณ บ้านพักปลัดจังหวัดปัตตานี (หลังเดิม) ตรงข้ามสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี ถนนสฤษดิ์ ตำบลสะบารัง อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ในการแนะนำ ให้คำปรึกษา ตลอดจนเป็นศูนย์ฝึกอบรมให้ความรู้สำหรับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย นักเรียน นักศึกษา เยาวชนรุ่นใหม่ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชน เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการรักษาสมบัติทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะศิลปหัตถกรรมทอผ้า รวมไปถึงผ้าบาติกของจังหวัดปัตตานีและภาคใต้ ผสมผสานมุมมองด้านแฟชั่นที่ร่วมสมัย และคงไว้ซึ่งการสืบสานอัตลักษณ์ท้องถิ่น การเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการบอกเล่าเรื่องราวประจำภูมิภาค ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการต่อยอด สร้างสรรค์ชิ้นงานเพื่อเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ สร้างวิถีชีวิตที่ดีให้กับตนเอง ครอบครัวและชุมชน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87806 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _2_9a0dde0a-3983-4c20-aa71-7dd72e7f2ed9.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _2_9a0dde0a-3983-4c20-aa71-7dd72e7f2ed9.txt" new file mode 100644 index 00000000..8eadb343 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _2_9a0dde0a-3983-4c20-aa71-7dd72e7f2ed9.txt" @@ -0,0 +1,17 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-"อนุทิน" เปิดงานส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท ยกเป็นสินค้าเกษตรคุณภาพสูงต่อยอดส่งออกตลาดโลกสร้างรายได้ชุมชนยั่งยืนได้ พร้อมเชิญพี่น้องประชาชนเที่ยวงานวันนี้ - 16 ก.ย. 67 นี้ + + +วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 +08/09/2567 +พิมพ์ +"อนุทิน" เปิดงานส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท ยกเป็นสินค้าเกษตรคุณภาพสูงต่อยอดส่งออกตลาดโลกสร้างรายได้ชุมชนยั่งยืนได้ พร้อมเชิญพี่น้องประชาชนเที่ยวงานวันนี้ - 16 ก.ย. 67 นี้ +"อนุทิน" เปิดงานส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท ยกเป็นสินค้าเกษตรคุณภาพสูงต่อยอดส่งออกตลาดโลกสร้างรายได้ชุมชนยั่งยืนได้ พร้อมเชิญพี่น้องประชาชนเที่ยวงานวันนี้ - 16 ก.ย. 67 นี้ +เมื่อวานนี้ (7 ก.ย. 67) เวลา 17.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันส้มโอขาวแตงกวาและของดีศรีท้องถิ่น จังหวัดชัยนาท ครั้งที่ 40 ประจำปี 2567 โดยมี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นางนันทนา สงฆ์ประชา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี อ่างทอง และสิงห์บุรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมพิธีเปิดงาน +นายอนุทิน กล่าวว่า ชัยนาทเป็นเมืองที่สวยงาม ส่วนตัวได้เห็นภาพภูมิประเทศของชัยนาทตอนบินสำรวจสถานการณ์น้ำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และก็ได้เห็นที่นี่คืออู่ข้าว อู่น้ำ มีความอุดมสมบูรณ์ มีผู้คนและบรรยากาศที่เอื้อที่สร้างสรรค์เศรษฐกิจได้ตั้งแต่ชุมชนไปถึงระดับประเทศได้ รวมถึงการปลูกส้มโอขาวแตงกวา ที่สามารถต่อยอดขายเป็นกล่องแพคเกจดีๆ รักษาคุณภาพความหวาน กรอบ และคุณค่าทางโภชนาการได้ สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้ง ยำส้มโอ ไวน์ส้มโอ ของหวาน อาหาร เครื่องดื่มเหล่านี้จะเป็นรากฐานการพัฒนารายได้ของชุมชน สามารถขยายตลาดไปถึงต่างประเทศ ต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืนได้ +ทั้งนี้ เชิญชวนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศมาเที่ยวงานส้มโอขาวแตงกวาฯ ซึ่งงานได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 -16 กันยายน 2567 ณ บริเวณศาลหลักเมือง และลานเอนกประสงค์ เขื่อนเรียงหิน หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท +"หลายครั้งที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาทไปที่กระทรวงมหาดไทย มักจะนำส้มโอขาวแตงกวาไปฝากเสมอ ผมลองชิมหลายครั้ง ยอมรับว่าเป็นส้มโอที่มีคุณภาพ ขอฝากให้กับพี่น้องเกษตรกรและชาวจังหวัดชัยนาทให้ได้ภูมิใจส้มโอของจังหวัดท่าน และขอให้พัฒนาและรักษาคุณภาพสินค้าของท่านให้ติดตลาดโลกให้ได้" นายอนุทิน กล่าว +นายอนุทิน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำของจังหวัดชัยนาทว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานได้บูรณาการการทำงาน วางแผนบริหารจัดการกรณีมีเหตุต่างๆ ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องชาวเกษตรกร เพราะทางราชการ ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติต่าง ๆ แล้ว +ภายหลังกล่าวเปิดงาน นายอนุทิน ได้มอบถ้วยรางวัล การประกวดขบวนแห่วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น การประกวดส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท และการแข่งขันการแปรรูปการประกอบอาหารจากส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท +สำหรับการจัดงานวันส้มโอขาวแตงกวา และของดีศรีท้องถิ่น จังหวัดชัยนาท ปี 2567 มีกำหนดการจัดงานตั้งแต่วันที่ 6 - 16 ก.ย. 67 ณ บริเวณเขื่อนเรียงหิน หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการปลูกส้มโอขาวแตงกวา ซึ่งเป็นผลไม้ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชัยนาท ซึ่งภายในงานนอกจากจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายแล้วยังมีการ การจำหน่ายส้มโอขาวแตงกวา ผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร ไม้ผล กิ่งพันธุ์ และส่งเสริมการจำหน่ายสินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP) ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดชัยนาท รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชัยนาทมากขึ้นด้วย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87807 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _3_03ecc348-bfc0-4ed7-b26d-3c7ba2b03819.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _3_03ecc348-bfc0-4ed7-b26d-3c7ba2b03819.txt" new file mode 100644 index 00000000..96e34815 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _3_03ecc348-bfc0-4ed7-b26d-3c7ba2b03819.txt" @@ -0,0 +1,18 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปมท. นำทีมผู้เชี่ยวชาญ "คณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุก" ลงพื้นที่ "โค้ชชิ่ง" เยาวชนคนรุ่นใหม่ภาคใต้ ตามพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เน้นย้ำ ร่วมกันแก้ไขในสิ่งผิด "สืบสาน รักษา และต่อยอด + + +วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 +08/09/2567 +พิมพ์ +ปมท. นำทีมผู้เชี่ยวชาญ "คณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุก" ลงพื้นที่ "โค้ชชิ่ง" เยาวชนคนรุ่นใหม่ภาคใต้ ตามพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เน้นย้ำ ร่วมกันแก้ไขในสิ่งผิด "สืบสาน รักษา และต่อยอด +ปลัด มท. นำทีมผู้เชี่ยวชาญ "คณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุก" ลงพื้นที่ "โค้ชชิ่ง" เยาวชนคนรุ่นใหม่ภาคใต้ ตามพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เน้นย้ำ ร่วมกันแก้ไขในสิ่งผิด "สืบสาน รักษา และต่อยอด" ถ่ายทอดสิ่งที่ดีงามสู่ลูกหลานเยาวชน เพื่อทำให้ "ประเทศชาติมั่นคง +ปลัด มท. นำทีมผู้เชี่ยวชาญ "คณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุก" ลงพื้นที่ "โค้ชชิ่ง" เยาวชนคนรุ่นใหม่ภาคใต้ ตามพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เน้นย้ำ ร่วมกันแก้ไขในสิ่งผิด "สืบสาน รักษา และต่อยอด" ถ่ายทอดสิ่งที่ดีงามสู่ลูกหลานเยาวชน เพื่อทำให้ "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข" และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน +วันนี้ (8 ก.ย. 67) เวลา 10.30 น. ที่ Laguna King Ballroom ชั้น 2 โรงแรมลากูน่า สงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการรับรู้และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพทางด้านการยกระดับและพัฒนามรดกภูมิปัญญาผ้าและงานหัตถกรรมไทย ตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้งที่ 3 จังหวัดสงขลา โดยมี นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นาง​มณีรัตน์​ พรหม​เขียว​ ประธาน​แม่บ้าน​มหาดไทย​จังหวัด​สงขลา นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหารจังหวัดสงขลา คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน พัฒนาการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดสงขลา คณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุก อาทิ ดร.ศรินดา จามรมาน นักวิชาการอิสระ นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและการย้อมสีธรรมชาติ อาจารย์ ดร.กรกลด คำสุข รองคณบดีฝ่ายวิชาการ รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิชาสร้างสรรค์วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อาจารย์ ดร.นวัทตกร อุมาศิลป์ อาจารย์หลักสูตรสาขาวิชาการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย นายศิริชัย ทหรานนท์ นักออกแบบและเจ้าของกิจการ แบรนด์ THEATRE นายภูภวิศ กฤตพลนารา ผู้ก่อตั้งและดีไซน์เนอร์แบรนด์ ISSUE หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการ และผู้เข้าร่วมอบรมซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ รวมทั้งหมดจำนวน 100 คน ร่วมในงาน +นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เป็นกิจกรรมที่ดีงามอย่างยิ่งอีกวันหนึ่งที่มีคนทั้ง 3 วัยมาอยู่ร่วมกัน มาพูดคุยแลกเปลี่ยนสิ่งที่เป็นประโยชน์กับชีวิตของพวกเรา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของความยั่งยืนของประเทศชาติ เพราะเป็นการหลอมรวมผู้มากด้วยประสบการณ์ผนวกกับผู้ที่มีความปรารถนา ความคิดสร้างสรรค์ ให้ประสบความสำเร็จ นั่นคือ นิสิต นักศึกษา น้อง ๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ผู้มีความสนใจใฝ่เรียนรู้และพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาด้านผ้าไทย อันเป็นกรอบแห่งการเรียนรู้แห่งองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้ทรงเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ด้วยการพระราชทาน "ความรู้" แก่พสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า พระองค์ท่านให้ความสำคัญกับพี่น้องชาวปักษ์ใต้เป็นพิเศษ สะท้อนจากลายผ้าพระราชทาน คือ ลายบาติก จำนวน 8 ลาย มากกว่าลายพระราชทานในพื้นที่ภาคอื่น ด้วยเพราะพระองค์ท่านมีความผูกพันเป็นพิเศษกับพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้ เจริญรอยตามเบื้องพระบาทยาตราสมเด็จย่าของพระองค์ คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินมาทรงงานและเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนคนไทยในพื้นที่ภาคใต้เป็นประจำอยู่เนือง ๆ ทุกปี +"สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการ "สืบสาน รักษา และต่อยอด" พระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้พสกนิกรไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งหน้าที่สำคัญที่สุดในการสนองพระราชปณิธานของพระองค์ท่านคือ "การทำหน้าที่ของพวกเราให้ดีที่สุด" และหน้าที่นั้นจะเกื้อหนุนเกื้อกูลให้ประชาชนได้รับสิ่งที่ดี ดังที่เห็นได้จากการที่พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือพี่น้องคนไทยผ่านข้าราชการมหาดไทย อันมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ พัฒนาการจังหวัด ปลัดอำเภอ พัฒนากร มาตลอดช่วงระยะเวลา 3-4 ปี สิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจน คือ พระอัจฉริยภาพของพระองค์ ตั้งแต่การทำให้สิ่งที่เปรียบเสมือนป็นความเชื่อดั้งเดิมว่า งานผ้าไทยหรืองานหัตถกรรมไทยจะต้องเป็นแบบดั้งเดิม ทั้ง สี ลวดลาย รวมถึงการออกแบบตัดเย็บ โดยทรงยื่นมือเข้ามาช่วยทำให้มีลายผ้าในรูปแบบต่าง ๆ เกิดเป็นสีและลวดลายใหม่ ๆ เป็นสีรุ้งหรือเรียกว่า "สีแห่งความรุ่งโรจน์" เกิดเป็นชุดที่มีความทันสมัย ถูกใจคนรุ่นใหม่ ดังนั้น ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าคณะที่มา "โค้ชชิ่ง" ในวันนี้ เป็นผู้ที่มีความรู้และความสามารถด้านแฟชั่น จึงเป็นโอกาสที่เราได้มาจากพระบารมีและพระกรุณาธิคุณของพระองค์พระราชทานให้คณะผู้เชี่ยวชาญผ้าไทยใส่ให้สนุกมาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กันพวกเรา" นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น +นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การแก้ไขในสิ่งผิด ด้วยการสืบสาน รักษา และต่อยอด สิ่งที่เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ช่วยเติมเต็มต่อยอดผลิตภัณฑ์ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น จากพระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระราชทานลายผ้าพระราชทาน และคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญโครงการ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ซึ่งสอดคล้องกับที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ดำเนินการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ด้วยการจับมือร่วมกันกับ Partnership หรือ 7 ภาคีเครือข่าย ผสมผสานกลุ่มคนที่มีความหลากหลายก่อให้เกิดความสำเร็จและสิ่งที่ดีงามมากมายเกิดขึ้น อีกทั้งพระองค์ท่านทรงมองการไกล คือ การทำให้อาชีพและวิถีชีวิตของคนไทยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งการคำนึงถึงการผลิตที่ใช้วัตถุดิบและสีจากธรรมชาติ จนทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มี "Sustainable Fashion" ยกระดับคุณค่าและความสำคัญของผลิตภัณฑ์ได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น และยิ่งทวีคูณ ด้วยการดูแลรักษาโลกใบเดียวของเราให้สวยงาม เป็นที่อยู่อาศัยของมวลมนุษยชาติ แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรคนไทย +"ขอขอบคุณกรมการพัฒนาชุมชนที่ช่วยประสานความร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ขับเคลื่อนการใช้สีธรรมชาติ วัสดุตามธรรมชาติ นำมาใช้ในการผลิตมาเป็นงานผ้าทำให้เราได้รับการรับรองด้านคาร์บอนฟุตปริ้น และอนุมัติให้ใช้ "Sustainable Fashion" ที่ได้รับพระราชทานเป็นเครื่องหมายสากลที่ช่วยยกระดับและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ทำให้ชาวบ้านซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยพวกเราทุกคนต้องเพิ่มพูนมุ่งมั่นในการนำความรู้ไปผลิตชิ้นงานต่อยอดไปสู่สากล เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ รวมถึงหนังสือที่ได้รับพระราชทานคือ Thai Textiles Trend Book ซึ่งคณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุกได้นำไปถ่ายทอดให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่และผู้ประกอบการในการต่อยอดด้านอาชีพ ซึ่งทั้งหมดเป็นพระอัจฉริยภาพและพระวิสัยทัศน์ที่พระองค์ทรงปรารถนาทำให้ผ้าไทยสามารถสร้างรายได้ให้กับคนไทย ซึ่งหลายจังหวัดมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากหลักแสนบาทเป็นหลักสิบล้านบาทต่อปี ส่งผลให้ชาวบ้านสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งแนวทางการแก้ไขในสิ่งผิดที่สำคัญในเรื่องจุดอ่อนของผ้าไทย คือ ภูมิปัญญาและสิ่งที่ดีงามที่ไม่ได้ถูกถ่ายทอดให้กับลูกหลานเยาวชน จึงเป็นที่มาของการเชื้อเชิญให้เด็กเยาวชน นิสิต นักศึกษา มารับการโค้ชชิ่งจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ซึ่งทุกกระบวนการถ่ายทอดภูมิปัญญา จากรุ่นสู่รุ่นนั้นล้วนแล้วแต่นำไปสู่ความยั่งยืน" นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม +นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงตระหนักถึงแฟชั่นที่ทันสมัย ความเกื้อกูลกันข้ามวัฒนธรรม จากจังหวัดสู่จังหวัด จากภาคสู่ภาค โดยนอกจากปัจเจกบุคคลแล้ว พระองค์ท่านยังพระราชทานแนวทางในภาพรวมของคนทั้งประเทศผ่านพระราชปณิธาน "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข" โดยกระทรวงมหาดไทย ผ่านการขับเคลื่อนของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เปรียบเสมือนผู้เป็นนายกรัฐมนตรีของจังหวัด/อำเภอ ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานพระดำริให้ข้าราชการมหาดไทยทำให้ "ครัวเรือนเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ ช่วยเหลือดูแลแบบพี่น้องญาติมิตรในลักษณะของการรวมกลุ่มเป็นกลุ่มบ้าน ขยายตัวเป็นหมู่บ้านยั่งยืน "Sustainable Village" ภายใต้กรอบหมู่บ้านยั่งยืนที่นำเอาความเป็นไทย ความรักความช่วยเหลือเกื้อกูลในอดีต มาดูแลครอบครัว ชุมชน ตำบล หมู่บ้าน ซึ่งความเป็นไทยจะช่วยเหลือทำให้คนในสังคมมีความเข้มแข็ง ช่วยขับเคลื่อนขจัดความเดือดร้อนแบบพุ่งเป้าของ ThaiQM ให้สำเร็จได้ ซึ่งหมู่บ้านจะยั่งยืนได้นั้น ต้องเริ่มจากการปลูกผักสวนครัว การดูแลสิ่งแวดล้อม การดูแลครอบครัวไม่ให้ยุ่งเกี่ยวจากยาเสพติด การช่วยเหลือและส่งเสริมด้านการศึกษา ซึ่งหากทุกหมู่บ้านทั้ง 80,000 กว่าหมู่บ้าน สามารถเป็นหมู่บ้านยั่งยืน "Sustainable Village" ก็จะเป็นอำเภอยั่งยืน "Sustainable District" และทั้ง 878 อำเภอ ก็จะเป็นจังหวัดยั่งยืน "Sustainable Provice" รวมกันเป็น "Sustainable Country" และหากทุกชาติบนโลกใบนี้ขับเคลื่อนตามแนวพระราชดำริฯ ดังกล่าว โลกนี้ก็จะยั่งยืนและผู้คนมีความสุข ขอให้พวกเราโปรดมั่นใจว่า เราโชคดีที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน อย่างสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ผู้มีพระราชปณิธานอันเปี่ยมล้นด้วยความรักความเมตตากับพวกเรา และสุดยอดปรารถนาแห่งชีวิต คือ การแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" จึงขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา คณะที่ปรึกษาผ้าไทยใส่ให้สนุก พัฒนาการจังหวัด พี่น้องกลุ่มโอทอป ศิลปาชีพ และลูกหลานผู้เป็นอนาคตของชาติ ซึ่งวันนี้เราจะมารับรู้เรื่องราวและนำกลับไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในลักษณะทำทันที และขอให้ทุกท่านเป็นกำลังหลักในการสนองพระราชปณิธานเพื่อร่วมกันทำให้ "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข" อย่างยั่งยืน +นายสมนึก กล่าวว่า การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการรับรู้และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพทางด้านการยกระดับและพัฒนามรดกภูมิปัญญาผ้าและงานหัตถกรรมไทย ตามพระดำริฯ จังหวัดสงขลา ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปสร้างสรรค์ต่อยอดการพัฒนางานผ้าและงานหัตถกรรมให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ช่วยทำให้ภูมิปัญญาผ้าไทยกับงานหัตถกรรมไทยมีชีวิตที่ยืนยาวด้วยการที่คนในสังคมให้การยอมรับและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อันส่งผลให้ภาคการผลิตได้มีกำลังในการออกแบบตัดเย็บและเพิ่มกำลังการผลิตด้วยการหาสมาชิกใหม่เพิ่มเติมเพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังทำให้เกิดกลุ่มใหม่เพิ่มมากขึ้นซึ่งปัจจัยสำคัญของความยั่งยืนของงานผ้าไทยและหัตถศิลป์หัตถกรรมไทย คือ มีคนใช้ มีคนซื้อ และมีรายได้จุนเจือครอบครัว และ และเรียนรู้และเผยแพร่หนังสือ Thai Textiles Trend Book เล่มที่ 5 ในแนวคิดว่าด้วยการ “เชื่อมต่อถักทอภูมิปัญญา : Threads of Wisdom” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกรูปแบบการประชุมใช้การแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าอบรมมีทั้งผู้ประกอบการผ้าไทย นักเรียน และนักศึกษา จากจังหวัดสงขลา รวมจำนวนทั้งสิ้น 115 คน + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87810 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _1_52477ee0-72f2-4800-8563-c4c9988702c8.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _1_52477ee0-72f2-4800-8563-c4c9988702c8.txt" new file mode 100644 index 00000000..aed22241 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _1_52477ee0-72f2-4800-8563-c4c9988702c8.txt" @@ -0,0 +1,28 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ดีอี เตือน ข่าวปลอม “โรงพยาบาลดังเปิดให้ลงทุนหุ้น กำกับดูแลโดย ก.ล.ต.” อย่าเชื่อ-แชร์ เสี่ยงสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล + + +วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 +ดีอี เตือน ข่าวปลอม “โรงพยาบาลดังเปิดให้ลงทุนหุ้น กำกับดูแลโดย ก.ล.ต.” อย่าเชื่อ-แชร์ เสี่ยงสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล +ดีอี เตือน ข่าวปลอม “โรงพยาบาลดังเปิดให้ลงทุนหุ้น กำกับดูแลโดย ก.ล.ต.” อย่าเชื่อ-แชร์ เสี่ยงสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล +กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์รายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “โรงพยาบาลชื่อดังเปิดให้ลงทุนหุ้น ภายใต้การกำกับดูแลโดย ก.ล.ต.” รองลงมาคือเรื่อง “ศูนย์ดำรงธรรมเปิดให้ยื่นสิทธิเฉลี่ยทรัพย์สิน จากการถูกหลอกลวง ผ่านเพจศูนย์ช่วยเหลือ-ลงทะเบียนรับเงินคืน คดีอาชญากรรมทางออนไลน์” โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นสร้างความเสียหายให้กับข้อมูลส่วนบุคคลและทรัพย์สิน โดยหากมีการส่งต่ออาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง +นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 5 กันยายน 2567 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 838,194 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 235 ข้อความ +สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 207  ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 20 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 172 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 84 เรื่อง โดยในจำนวนนี้มีข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุด จำนวน 10 อันดับ ได้แก่ +อันดับที่ 1 : เรื่อง โรงพยาบาลชื่อดังเปิดให้ลงทุนหุ้น ภายใต้การกำกับดูแลโดย ก.ล.ต. +อันดับที่ 2 : เรื่อง ศูนย์ดำรงธรรมเปิดให้ยื่นสิทธิเฉลี่ยทรัพย์สิน จากการถูกหลอกลวง ผ่านเพจศูนย์ช่วยเหลือ-ลงทะเบียนรับเงินคืน คดีอาชญากรรมทางออนไลน์ +อันดับที่ 3 : เรื่อง เพจ Thai Oil Stock Exchange of Thailand เปิดลงทะเบียนเพื่อร่วมลงทุนกับตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำแห่งประเทศไทย +อันดับที่ 4 : เรื่อง รับพนักงานแพ็กสบู่กล่องละ 5,000 บาท สมัครผ่านไลน์ @185qkevs +อันดับที่ 5 : เรื่อง AOT เปิดเพจเฟซบุ๊กใหม่ชื่อ Thailand International Airport +อันดับที่ 6 : เรื่อง AOT รับสมัครงานผ่านเพจ Mae Fah Luang Chiang Rai Internaional Airport – CEl +อันดับที่ 7 : เรื่อง ออสเตรเลียรับสมัครคนทำสวน ที่พักฟรี รายได้สูง 80,000 บาท +อันดับที่ 8 : เรื่อง กรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครงานทำที่บ้าน รายได้ 3,422-7,680 บาทต่อสัปดาห์ +อันดับที่ 9 : เรื่อง รับสมัครพนักงาน ไม่มีค่าสมัคร ไม่ต้องลงทุน ผ่านเพจรายได้เสริม ทำที่บ้าน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน +อันดับที่ 10 : เรื่อง รับทำใบขับขี่ทุกประเภท ผ่านเพจนางวัชราภรณ์ +“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ จาก 10 อันดับ ข้างต้น ยังคงพบว่า ส่วนใหญ่เป็นข่าวการทำธุรกรรมที่มีการแอบอ้างถึงหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะอันดับ 1 ที่แอบอ้างว่า “โรงพยาบาลชื่อดังเปิดให้ลงทุนหุ้น ภายใต้การกำกับดูแลโดย ก.ล.ต.” ทั้งนี้จากการประสานงานตรวจสอบร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลหรือชักชวนลงทุนที่แอบอ้างใช้ชื่อของโรงพยาบาล และ ก.ล.ต. โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ก.ล.ต. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับโพสต์โฆษณาดังกล่าวทั้งสิ้น ดังนั้นขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก ก.ล.ต. สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sec.or.th หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. SEC Help Center 1207” นายเวทางค์ กล่าว +อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด โดยสามารถสอบถามผ่าน สายด่วน 1111 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ขอให้ประชาชน ยึด “หลัก 4 ไม่ คือ 1. ไม่กดลิงก์ 2.ไม่เชื่อ 3.ไม่รีบ และ 4.ไม่โอน” +หากประชาชนโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี AOC 1441 +สอบถามข้อมูลข่าวสารโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” โทรสายด่วน Digital Wallet 1111 (24 ชม.) +แจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.) +|  Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com +-------------------------------------------------------------------------------------- + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87808 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _10_66557628-b30b-454f-9521-23b1eab889c0.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _10_66557628-b30b-454f-9521-23b1eab889c0.txt" new file mode 100644 index 00000000..f4b03066 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _10_66557628-b30b-454f-9521-23b1eab889c0.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปลัดฯ ณัฐพล นำทีมเตรียมจัดงานกาชาด 2567 ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรม รวมใจภักดิ์ 72 พรรษา ทศมราชา” รายได้สมทบทุนสภากาชาดไทย + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +ปลัดฯ ณัฐพล นำทีมเตรียมจัดงานกาชาด 2567 ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรม รวมใจภักดิ์ 72 พรรษา ทศมราชา” รายได้สมทบทุนสภากาชาดไทย +ปลัดฯ ณัฐพล นำทีมเตรียมจัดงานกาชาด 2567 ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรม รวมใจภักดิ์ 72 พรรษา ทศมราชา” รายได้สมทบทุนสภากาชาดไทย +วันที่ 4 กันยายน 2567 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดงานร้านกระทรวงอุตสาหกรรมในงานกาชาด ประจำปี 2567 ครั้งที่ 1/2566 เพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการจัดงาน และคณะกรรมการร่างคำสั่งการสนับสนุนของรางวัลสลากกาชาด รวมถึงค่าใช้จ่ายการจัดงานร้านกระทรวงอุตสาหกรรมในงานกาชาด ประจำปี 2567 และรูปแบบการจัดนิทรรศการและกิจกรรมร้านกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี นายเอกภัทร วังสุวรรณ นายบรรจง สุกรีฑา นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเดชา จาตุธนานันท์ นายเอกนิติ  รมยานนท์  ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม  นางสาวณิรดา วิสุทธิชาติธาดา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม ณ ห้องประชุม อก. 1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม +โดยประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ณ วังสระปทุม ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินรายได้จากการออกร้านกระทรวงอุตสาหกรรม ในงานกาชาด ประจำปี 2566 จำนวน 6,149,833.99 บาท เพื่อบำรุงสภากาชาดไทย และร่วมพิจารณาร่างคำสั่งคณะกรรมการ เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดงานร้านกระทรวงอุตสาหกรรมในงานกาชาด แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดหาของรางวัลสลากกาชาด และจัดทำสลากบำรุงสภากาชาดไทยกระทรวงอุตสาหกรรม ประจำปี 2567 การขออนุมัติวงเงินจัดจ้างออกแบบ ก่อสร้าง ตกแต่ง และจัดกิจกรรมร้านกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงการขอสนับสนุนจากหน่วยร่วมภายใต้กำกับกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบด้วย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และหน่วยงานที่สนใจ +ทั้งนี้ สภากาชาดไทย กำหนดจัดงานกาชาดประจำปี 2567 ในรูปแบบผสมผสาน On ground บริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 11 - 22 ธันวาคม 2567 ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าร่วมออกร้านกระทรวงอุตสาหกรรมในงานกาชาด ประจำปี 2567 ในแนวคิด "อุตสาหกรรม รวมใจภักดิ์ 72 พรรษา ทศมราชา" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ แบ่งการจัดกิจกรรมเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ โดยจะมีการเพิ่มเติมการจัดทำบอร์ดนิทรรศการประวัติความเป็นมาของส่วนราชการในสังกัด และโซนกิจกรรม เกมส์จับฉลากแทงหลอด ลุ้นรับรางวัลมากมายพร้อมกิจกรรมบนเวทีและความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนการจัดหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทยสำหรับกิจกรรมภายในร้านกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบด้วย เกมส์จับฉลากรางวัลลุ้นรับของรางวัลใหญ่ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น โทรทัศน์สี รถจักรยาน ตุ๊กตา เครื่องอุปโภค บริโภค และสินค้าอุตสาหกรรม เป็นต้น การแสดงจากศิลปิน ดารา นักร้องที่มีชื่อเสียงทุกวัน และสลากบำรุงกาชาดไทยร้านกระทรวงอุตสาหกรรม ในราคา 100 บาท พร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมาย เช่น รถยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ ทองรูปพรรณ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87801 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _11_a623d77a-8a08-4494-ad65-4321b2f17042.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _11_a623d77a-8a08-4494-ad65-4321b2f17042.txt" new file mode 100644 index 00000000..e758d79f --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _11_a623d77a-8a08-4494-ad65-4321b2f17042.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​ปลัดฯ ณัฐพล รับมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค เตรียมแพคถุง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +​ปลัดฯ ณัฐพล รับมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค เตรียมแพคถุง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม +​ปลัดฯ ณัฐพล รับมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค เตรียมแพคถุง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม +ด้วยในปัจจุบัน ประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ทำให้เกิดมรสุม มีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุทกภัย สร้างความเสียหายต่อการดำรงชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและสถานประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่ +กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เพื่อรวมใจส่งมอบรอยยิ้ม ให้กับประชาชน ภายใต้โครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย” โดยในวันที่ 5 กันยายน 2567 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค และของใช้ที่จำเป็น เพื่อเตรียมแพคถุงเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัย โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี ได้รับความอนุเคราะห์ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด จากผู้ประกอบการ ได้แก่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานปทุมธานี บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัท นีโอ แฟคทอรี่ จำกัด +ทั้งนี้ การดำเนินการโครงการอุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย เพื่อจัดทำถุงบรรจุเครื่องอุปโภค​บริโภค​และสิ่งของจำเป็น เป็นถุงยังชีพที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม​ทั่วประเทศ​ที่รวมใจส่งมอบรอยยิ้ม เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัย​ในการก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87802 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _12_7178e130-a8fb-4108-bc0f-e4d0f5bfa54d.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _12_7178e130-a8fb-4108-bc0f-e4d0f5bfa54d.txt" new file mode 100644 index 00000000..0bf52cd7 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _12_7178e130-a8fb-4108-bc0f-e4d0f5bfa54d.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​ปลัดฯณัฐพล ลงตรวจเข้ม สถานประกอบการที่เข้าชิงรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ.2567 เฟ้นหาต้นแบบสถานประกอบการของไทยยุคใหม่ ที่อยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +​ปลัดฯณัฐพล ลงตรวจเข้ม สถานประกอบการที่เข้าชิงรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ.2567 เฟ้นหาต้นแบบสถานประกอบการของไทยยุคใหม่ ที่อยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน +​ปลัดฯณัฐพล ลงตรวจเข้ม สถานประกอบการที่เข้าชิงรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ.2567 เฟ้นหาต้นแบบสถานประกอบการของไทยยุคใหม่ ที่อยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน +เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2567 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจประเมินสถานประกอบการที่เข้ารอบคัดเลือกรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ.2567 โดยมีนายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายสมชาย เถื่อนสุวรรณ์ อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา และคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ.2567 ร่วมด้วย ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา +ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การลงพื้นที่เพื่อตรวจประเมินสถานประกอบการในวันนี้ เพื่อให้คณะทำงานสามารถพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ.2567 ได้อย่างรอบด้านและครบถ้วน เพื่อเฟ้นหาผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เป็นแบบอย่างที่ดีในการประกอบการที่สามารถอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยมีเกณฑ์การพิจารณา 6 ด้าน ได้แก่ การกำหนดกลยุทธ์และนโยบาย ความสามารถในการแข่งขัน ความสามารถในการปรับตัวและฟื้นตัวกลับ ความสามารถในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความสามารถในการสร้างคุณประโยชน์และผลลัพธ์ ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดได้รับคัดเลือกเป็นอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ.2567 และจะได้รับอีกหนึ่งรางวัลคือ ทูตอุตสาหกรรมภาคเอกชน หรือ MIND Ambassador โดยจะได้ร่วมดำเนินงานในการยกระดับภาคอุตสาหกรรม ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเป็นรากฐานสำคัญของภาคอุตสาหกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยหลังจากนี้คณะทำงานฯ จะลงพื้นที่เพื่อตรวจประเมินสถานประกอบที่เหลืออีกภายในสัปดาห์หน้าเพื่อให้การพิจารณามีความครบถ้วน +โดยสถานประกอบการแรกที่เข้าตรวจประเมิน คือบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (โรงงานเกตเวย์) จำกัด เป็นหนึ่งในผู้นำด้านยานยนต์ของไทย ดำเนินกิจการในไทยมาแล้วกว่า 60 ปี ในส่วนของโรงงานเกตเวย์ มี 2 โรงงานในพื้นที่เดียวกัน โดยเป็นโรงงานที่มีการใช้ชิ้นส่วนในการผลิตจากผู้ค้าภายในประเทศ ทำให้การกระจายรายได้ไปยังหลายภูมิภาคที่ผู้ค้าตั้งอยู่ สร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้คนในท้องถิ่น และยังมีการพัฒนาให้ความรู้แก่บุคลากรภายนอก มีการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทิศทางขององค์กรแก่พนักงาน และพร้อมรับฟังข้อเสนอ แนวคิดจากพนักงานในทุกระดับ ผ่านกระบวนการระดมความคิด เพื่อให้ผู้บริหารสามารถปรับทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กร +และสถานประกอบการแห่งที่สองคือ บริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำในการผลิต ทดสอบ และให้บริการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller) และอุปกรณ์สนับสนุนที่ครบวงจร เช่น หน่วยความจำ อุปกรณ์ควบคุมการเชื่อมต่อ เป็นต้น ซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นส่วนประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น ยานยนต์ เครื่องมือแพทย์ โทรคมนาคม เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยมีห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือทันสมัย มีบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ และมีการพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศทางนวัตกรรม มีการดูแลชุมชนและสังคมรอบข้าง สร้างอาชีพให้ชุมชน และการดูแลสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมศูนย์การเรียนการเกษตร Smart Farm เพื่อช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้กับโรงเรียนและเด็กนักเรียน รวมทั้งการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ให้กับทางโรงเรียนเพื่อช่วยลดภาระด้านค่าไฟให้ทางโรงเรียนอีกด้วย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87803 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _13_2aa458d4-1959-438d-b246-58b719ef99d2.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _13_2aa458d4-1959-438d-b246-58b719ef99d2.txt" new file mode 100644 index 00000000..855cbe0c --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _13_2aa458d4-1959-438d-b246-58b719ef99d2.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​“พิมพ์ภัทรา” อำลากระทรวงอุตสาหกรรม ข้าราชการแห่ส่งแน่น พร้อมรอยยิ้มสุดประทับใจ ยกเป็นผู้นำที่ดีมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรม + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +​“พิมพ์ภัทรา” อำลากระทรวงอุตสาหกรรม ข้าราชการแห่ส่งแน่น พร้อมรอยยิ้มสุดประทับใจ ยกเป็นผู้นำที่ดีมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรม +​“พิมพ์ภัทรา” อำลากระทรวงอุตสาหกรรม ข้าราชการแห่ส่งแน่น พร้อมรอยยิ้มสุดประทับใจ ยกเป็นผู้นำที่ดีมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรม +กระทรวงอุตสาหกรรม -  6 กันยายน 2567 เมื่อเวลา 8.00 น. นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะ เดินทางเข้ากระทรวงฯ ในโอกาสอำลาตำแหน่ง โดยได้กล่าวขอบคุณข้าราชการในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ทำงานร่วมกันตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็ม โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกภัทร วังสุวรรณ นายบรรจง สุกรีฑา นายใบน้อย สุวรรณชาตรี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฯ ให้การต้อนรับกันอย่างเนืองแน่นด้วยรอยยิ้มและเสียงปรบมือ +นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ตนมีความภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาทำงานในกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับทุกท่าน  ขอบคุณจากหัวใจ ที่ได้สร้างภาพจำที่ดีให้กับกระทรวงฯ ทั้งนี้ ความสำเร็จต่าง ๆ จะไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้เลยหากไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากชาวกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีความรู้ความสามารถ และได้ส่งพลังงานดี ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้วันนี้ทุกคนมีรอยยิ้มที่กว้างกว่าวันแรกที่เข้ามาทำงาน อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าทุกท่านจะร่วมแรงร่วมใจทำงานเพื่อกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านและครอบครัวของพวกเราต่อไป +ด้านนายณัฐพล กล่าวว่า 1 ปี ที่ผ่านมา รัฐมนตรีพิมพ์ภัทรา เป็นผู้นำที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรม สามารถทำงานร่วมกับข้าราชการในทุกระดับเป็นอย่างดี ขอบคุณท่านที่ดูแลเศรษฐกิจฐานราก ช่วยหลือชุมชน ผู้ประกอบการ และได้ผลักดันนโยบาย รื้อ ลด ปลดสร้าง ได้อย่างเป็นรูปธรรม ตนในฐานะตัวแทนของผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ขอกราบขอบพระคุณ และพร้อมที่จะสานต่อนโยบายต่อไป +จากนั้น นางสาวพิมพ์ภัทรา ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แก่ พระภูมิ และองค์พระนารายณ์ ก่อนเดินทางออกจากกระทรวงอุตสาหกรรมไปในเวลา 9.09 น. + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87804 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _14_b9af6413-0df2-4f44-892d-14419345e66a.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _14_b9af6413-0df2-4f44-892d-14419345e66a.txt" new file mode 100644 index 00000000..e62c2434 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _14_b9af6413-0df2-4f44-892d-14419345e66a.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​ปลัดฯ ณัฐพล เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวงอุตสาหกรรม + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +​ปลัดฯ ณัฐพล เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวงอุตสาหกรรม +​ปลัดฯ ณัฐพล เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวงอุตสาหกรรม +5 กันยายน 2567 นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี นายเอกภัทร วังสุวรรณ และ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ปฏิบัติหน้าที่หัวกลุ่ม ป.ย.ป.อก. นางสาวณิรดา วิสุทธิชาติธาดา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางศิริเพ็ญ เกียรติเฟื่องฟู รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นางสาววิริยา เนตรน้อย รองเลขาธิการ ก.พ.ร.  นายธานิสสร ตู้จินดา นักวิเคราะห์งบประมาณเชี่ยวชาญ สำนักงบประมาณ นางสาววิริยา เนตรน้อย รองเลขาธิการ ก.พ.ร. นายนิติ ช่างภิญโญ  ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์การผลิตและบริการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Meeting) ณ ห้องประชุม อก. 1 สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม +โดยการประชุมดังกล่าวมีเรื่องเสนอเพื่อทราบ ดังนี้ 1) กรอบแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 2) มติคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร.) เกี่ยวกับการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงและสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการในการประชุมครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 และ ครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 และมีเรื่องเสนอเพื่อพิจารณา ได้แก่ การขอเปลี่ยนแปลงมติคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร.) เกี่ยวกับการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงและสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการในการประชุมครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 และการกำหนดตัวชี้วัด น้ำหนัก ค่าเป้าหมายในการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม องค์ประกอบที่ 1 การประเมินและสิทธิผลการดำเนินงาน (Performance Base) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีลำดับการพิจารณาดังนี้ 1) กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) 2) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) 3) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) 4) สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) 5) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) 6) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) 7) สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (สปอ.) +มติที่ประชุมได้เห็นชอบการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดตัวชี้วัดเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ (Strategic KPIs) และตัวชี้วัดสำหรับติดตามผลการดำเนินงาน (Monitor KPIs) ปี 2568 ของกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงมีมติเห็นชอบข้อเสนอตัวชี้วัดเพื่อการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อจัดส่งไปยังสำนักงาน ก.พ.ร. ต่อไป โดยในที่ประชุมได้ให้แต่ละหน่วยงานนำเสนอตัวชี้วัดโดยได้รับคำแนะนำจากผู้แทนสำนักงาน ก.พ.ร. ในการปรับค่าเป้าหมายให้สอดคล้องกับบริบทการทำงานของหน่วยงาน มีความท้าทายและตอบโจทย์ตัวชี้วัดระดับประเทศ เช่น ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายรัฐบาล เป็นต้น + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87805 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _15_efd94893-7d9e-450f-8424-2572e4671afb.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _15_efd94893-7d9e-450f-8424-2572e4671afb.txt" new file mode 100644 index 00000000..76820b30 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _15_efd94893-7d9e-450f-8424-2572e4671afb.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-3 รมต.เกษตรฯ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยลุ่มเจ้าพระยา กำชับกรมชลฯ เตรียมรับมือฝนตกหนัก พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เร่งประชาสัมพันธ์ลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่ + + +วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 +3 รมต.เกษตรฯ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยลุ่มเจ้าพระยา กำชับกรมชลฯ เตรียมรับมือฝนตกหนัก พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เร่งประชาสัมพันธ์ลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่ +3 รมต.เกษตรฯ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยลุ่มเจ้าพระยา กำชับกรมชลฯ เตรียมรับมือฝนตกหนัก พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เร่งประชาสัมพันธ์ลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด +นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ชัยนาท และ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยช่วงเช้าเดินทางไปยัง สำนักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา จากนั้นช่วงบ่าย ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ณ ประตูระบายน้ำปากคลองบางบาล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา +ทั้งนี้ จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น “ยางิ” (YAGI) จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และอ่อนกำลังลง จะส่งผลให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 7-8 ก.ย. 67 โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่คาดการณ์ว่า จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ประกอบกับเขื่อนสิริกิติ์มีแนวโน้มปรับเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อรองรับน้ำหลากในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ ที่สถานีวัดน้ำ C2 เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในอัตรา 1,500 -1,600 ลบ.ม./วินาที ก่อนที่จะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท +กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา โดยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ตามศักยภาพของคลองชลประทานในอัตราที่เหมาะสม และเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาและสามารถรองรับปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่จะเพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกในระยะนี้ได้ จึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราระหว่าง 1,500 – 1,700 ลบ.ม./วินาที ซึ่งการระบายน้ำในอัตราดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง , คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา , แม่น้ำน้อยบริเวณตำบลหัวเวียง อ.เสนา , ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดน อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 20 - 50 เซนติเมตร โดยกรมชลประทานได้ทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาแล้ว ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กทม. +จากสถานการณ์ดังกล่าว รมว.เกษตรฯ ได้กำชับให้กรมชลประทาน เตรียมความพร้อมรับมืออย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ประจำไว้ในพื้นที่เสี่ยง และเน้นย้ำให้มีการแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง เพื่อช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุดตามนโยบายของรัฐบาล +สำหรับการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบนที่ระบายจากเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ และแควน้อยฯ ไหลมารวมกันที่ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสถานีวัดน้ำ C.2 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ปัจจุบัน 1,481 ลบ.ม./วินาที โดยกรมชลประทาน บริหารจัดการน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก รวมรับน้ำ 292 ลบ.ม./วินาที ขณะที่ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาวันนี้ 1,498 ลบ.ม./วินาที โดยเขื่อนเจ้าพระยามีความสามารถในการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 3,000 ลบ.ม./วินาที +จากนั้น รัฐมนตรีว่าการฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เดินทางไปยังประตูระบายน้ำปากคลองบางบาล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล – บางไทร เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณก่อนเข้าตัวเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยซ้ำซากในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมทั้งหารือแนวทางเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย ตลอดจนเร่งผลักดันโครงการต่าง ๆ ที่สำคัญ เพื่อให้การบริหารการจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ +สำหรับพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีทั้งหมด 2 จังหวัด 8 อำเภอ จำนวน 11,639 ครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 กันยายน 2567) ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา ประกอบด้วย 1) อ.เสนา 7 ตำบล 2,792 ครัวเรือน 2) อ.ผักไห่ 13 ตำบล 2,582 ครัวเรือน 3) อ.บางปะอิน 10 ตำบล 1,432 ครัวเรือน 4) อ.พระนครศรีอยุธยา 11 ตำบล 573 ครัวเรือน 5) อ.บางบาล 14 ตำบล 1,737 ครัวเรือน 6) อ.บางไทร 21 ตำบล 2,490 ครัวเรือน 7) อ.บางปะหัน 1 ตำบล 24 ครัวเรือน และ จ.อ่างทอง ได้แก่ อ.ป่าโมก 1 ตำบล 9 ครัวเรือน + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87812 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _1_1ad6b5e7-a669-4f2e-9c93-699dc4a57c38.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _1_1ad6b5e7-a669-4f2e-9c93-699dc4a57c38.txt" new file mode 100644 index 00000000..00aa7554 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _1_1ad6b5e7-a669-4f2e-9c93-699dc4a57c38.txt" @@ -0,0 +1,27 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​เปิดฉากยิ่งใหญ่! Halal Inspirium จุดประกายผู้ประกอบการไทย ผนึกกำลังภาครัฐดันอุตสาหกรรมฮาลาลบุกตลาดโลก + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +​เปิดฉากยิ่งใหญ่! Halal Inspirium จุดประกายผู้ประกอบการไทย ผนึกกำลังภาครัฐดันอุตสาหกรรมฮาลาลบุกตลาดโลก +​เปิดฉากยิ่งใหญ่! Halal Inspirium จุดประกายผู้ประกอบการไทย ผนึกกำลังภาครัฐดันอุตสาหกรรมฮาลาลบุกตลาดโลก +“ภูมิธรรม” ปลื้ม! เปิดงานส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย Halal Inspirium เปิดฉากแสดงศักยภาพฮาลาลไทยอย่างยิ่งใหญ่ จุดประกายผู้ประกอบการไทย “พิมพ์ภัทรา” ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน และ 3 ธนาคาร EXIM Bank-SME D Bank-ธนาคารอิสลาม รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ทะยานสู่การเป็น “ฮับฮาลาลอาเซียน” ภายในปี 2570 ตั้งเป้าสร้างมูลค่าเพิ่มทะลุ 55,000 ล้านบาท พร้อมยกระดับการผลิตสินค้าฮาลาลพรีเมียม ส่งออกสู่ตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เปิดตัว "ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย" เผยโฉมอุตสาหกรรมฮาลาลครบวงจร พร้อมบุกตลาดโลก +กรุงเทพฯ 4 ก.ย. 67 - นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย Halal Inspirium : สร้างแรงบันดาลใจนําอัตลักษณ์ไทยสู่สากล พร้อมด้วยนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีนายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี และตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ +นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสําคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางฮาลาลของอาเซียน (ASEAN Halal Hub) ตามนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยศักยภาพและความพร้อมในด้านต่าง ๆ ของประเทศไทยถือได้ว่ามีความพร้อมในหลายๆด้าน ทั้งการเป็นฐานการผลิตสินค้าฮาลาลที่มีคุณภาพและหลากหลาย การมีแรงงานและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งมีศักยภาพ อีกทั้งยังมีภาคการท่องเที่ยวเป็นจุดขาย ซึ่งทำให้ประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมากในการขยายตลาดไปยังหลายภูมิภาคทั่วโลก +ทั้งนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศไทย ตามนโยบาลที่ได้มอบไว้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม ประกอบด้วยแนวทางการจัดตั้งหน่วยงานรับผิดชอบอุตสาหกรรมฮาลาลในรูปแบบ “ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาล” (ระยะสั้น) ภายใต้ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2567-2571) และแนวทางการจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (กอฮช.) ตลอดจนแผนขยายตลาดสินค้าฮาลาลไปยังตลาดที่มีกําลังซื้อสูง เช่น ประเทศซาอุดีอาระเบีย กลุ่มประเทศอาเซียน และประเทศ Non-Muslim อื่น ๆ ทั่วโลก เป็นต้น +นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศศักดาจัดงาน "Halal Inspirium" หวังปลุกกระแสฮาลาลไทยให้ระอุ พุ่งเป้าแย่งชิงตำแหน่งศูนย์กลางฮาลาลแห่งอาเซียนภายในปี 2570 ผลักดันทุกสาขาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยชิงตลาดฮาลาลโลก มูลค่ามหาศาลกว่า 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่คาดทะยานแตะ 3.1 ล้านล้านเหรียญฯ ในปี 2570 ย้ำชัด "นี่คือโอกาสทองของผู้ประกอบการไทย ถึงเวลาต้องรุกตลาดมุสลิม 1 ใน 4 ของประชากรโลก!" ด้านข้อมูลเชิงลึกเผยปัจจุบันไทยมีทัพผู้ประกอบการฮาลาลแข็งแกร่งกว่า 15,000 ราย มีสินค้าฮาลาลกว่า 166,000 รายการ พร้อมร้านอาหารฮาลาลอีก 3,500 ร้าน ตอกย้ำศักยภาพการส่งออกปี 2566 พุ่งทะลุ 216,698 ล้านบาท โตเฉลี่ย 2.6% ทะยานขึ้นแท่นผู้ส่งออกอาหารฮาลาลอันดับ 11 ของโลก +งาน "Halal Inspirium" ครั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจับมือกับพันธมิตร อาทิ ผู้แทนการค้าไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (CICOT) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สถาบันอาหาร สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) พร้อมหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนอีกมาก ในวันที่ 4 กันยายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ +"พิมพ์ภัทรา" ย้ำว่า "ฮาลาลไทยไม่ได้มีดีแค่อาหาร เรามีครบวงจรตั้งแต่เครื่องสำอาง แฟชั่น และการท่องเที่ยว" พร้อมเปิดเวทีให้ 40 ผู้ประกอบการชั้นนำโชว์ศักยภาพ คาดดึงดูดผู้เข้าชม คู้ค้า ทะลุเป้า 450 ราย ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าหลายประเทศมุสลิมมีความต้องการนำเข้าสินค้าฮาลาลจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่สามารถผลิตสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการในประเทศ ทำให้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายตลาด ขณะเดียวกัน การรับรองฮาลาลกลายเป็นเครื่องหมายของคุณภาพและความปลอดภัย ทำให้สินค้าที่มีตราฮาลาลสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้หลากหลาย ผู้บริโภคที่ไม่ใช่มุสลิมก็เริ่มให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ฮาลาล ทำให้ตลาดนี้มีความน่าสนใจต่อผู้ผลิตสินค้าและบริการทั่วไปที่ต้องการขยายกลุ่มเป้าหมาย +ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการรวมพลังครั้งใหญ่ของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ นำโดยกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงว่าการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนชั้นนำด้านอุตสาหกรรมฮาลาลทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซาอุดีอาระเบีย บรูไนฯ และมาเลเซีย เป็นต้น รวมทั้งสถาบันการเงินที่พร้อมสนับสนุนเงินทุน และสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย(CICOT) ที่จะช่วยรับรองมาตรฐานฮาลาลระดับสากล +นอกจากอาหารฮาลาลที่ไทยมีชื่อเสียงอยู่แล้ว งานนี้ยังเปิดมุมมองใหม่สู่อุตสาหกรรม Muslim-friendly ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น เครื่องสำอาง การท่องเที่ยว และบริการทางการเงินแบบอิสลาม +รวมทั้ง กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย เพื่อเป็นกลไกในการสนับสนุนปัจจัยแวดล้อมของอุตสาหกรรมฮาลาลไทย มีภารกิจในการยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต โดยมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์และยกระดับมาตรฐาน รวมทั้งขยายตลาดส่งออกสินค้าฮาลาล โดยมีผลิตภัณฑ์เป้าหมาย เช่น อาหาร ยา สมุนไพร เครื่องสำอาง แฟชั่นมุสลิม นอกจากนี้ ยังมีภารกิจในการส่งเสริมการค้าอุตสาหกรรมฮาลาลทั้งในและระหว่างประเทศ รวมถึงทำหน้าที่เป็น National Focal Point ในการประสาน   ความร่วมมือด้านฮาลาลกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ +สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการเริ่มธุรกิจด้านฮาลาล ทางศูนย์มีบริการให้คำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และช่องทางการตลาดในการเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคมุสลิมทั้งในและต่างประเทศ  ให้คำแนะนำในการวิจัยพัฒนา และยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าฮาลาล และการขอรับรองมาตรฐาน สำหรับในส่วนของผู้ผลิตรายเดิมที่สนใจผลิตสินค้าฮาลาล ทางศูนย์มีบริการให้คำปรึกษาในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้สอดคล้องตามมาตรฐานฮาลาลและมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น GHP, HACCP เป็นต้น และมีโปรแกรมในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย และเตรียมความพร้อมสำหรับการส่งออก และสำหรับผู้ประกอบการที่มีความต้องการด้านเงินทุน ทางศูนย์ได้มีความร่วมมือกับธนาคาร เช่น EXIM Bank, SME D Bank และ ธนาคารอิสลาม เป็นเครือข่ายพันธมิตรในการให้บริการสินเชื่อกับผู้ประกอบการ พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับอย่างครบวงจร เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีสากล นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังให้บริการห้องปฎิบัติการด้านฮาลาล เพื่อตรวจวิเคราะห์สารต้องห้าม เช่น ส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และพันธุกรรม (DNA) ของสุกร รวมทั้ง ยกระดับขีดความสามารถในการตรวจทดสอบ โดยเชื่อมโยงเครือข่ายห้องปฏิบัติการทดสอบ ร่วมกับ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นต้น เพื่อให้บริการกับผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ +ทั้งนี้ ภายในงานนี้ได้รับเกียรติจากท่านจุฬาราชมนตรีในการกล่าวดุอาอวยพรเปิดงานตามหลักศาสนามุสลิม และมีการแสดงแฟชั่นโชว์ศักยภาพตลาดด้านความสวยงาม ในกลุ่มเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มมุสลิม รวมทั้งสาธิตการปรุงอาหารฮาลาล โดย “เชฟนูรอ” เชฟหญิงชาวไทยมุสลิม จาก Blue Elephant ที่สามารถขยายการรับรู้ Soft power อย่าง “อาหารไทย” ไปยังตลาดผู้บริโภคชาวมุสลิมและกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพทั่วโลก +Halal Inspirium จึงเป็นงานแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมฮาลาลไทยที่เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ ประกาศความพร้อมการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางฮาลาลแห่งอาเซียน ภายในปี 2570 +นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า "วันนี้เราไม่ได้แค่เปิดตัวศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย แต่เรากำลังเปิดประตูสู่โอกาสมหาศาลในตลาดฮาลาลโลก ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยจะทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา หาตลาด จนถึงจับคู่ธุรกิจ โดยเน้นการยกระดับสินค้าฮาลาลไทยสู่ระดับพรีเมียม เราไม่ได้มองแค่ตลาดมุสลิม แต่เรากำลังมองถึง           กลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและความยั่งยืนทั่วโลก" ผู้อำนวยการ สศอ. เน้นย้ำ "สินค้าฮาลาลไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้บริโภคมุสลิมอีกต่อไป แต่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการความสะอาด ปลอดภัย และมีจริยธรรมในการผลิต" +ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การเสวนาเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายอุตสาหกรรม การบรรยายเจาะลึกตลาดฮาลาลโลกและโอกาสของไทย แฟชั่นโชว์ที่ผสานความงามและความเหมาะสมทางศาสนา การสาธิตอาหารฮาลาลโดยเชฟระดับโลก การเจรจาจับคู่ธุรกิจ โดยคาดว่าจะเกิดคู่การเจรจาทางธุรกิจประมาณ 150 คู่ มูลค่าการซื้อขายกว่า 100 ล้านบาท +ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานสามารถสัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐานฮาลาลและมาตรฐานสากล ผ่านบูธการแสดงสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการฮาลาล ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ในการดูแลตัวเอง Wellness&Spa การท่องเที่ยว และยา รวมทั้งบูธจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาล รวมทั้งสิ้นกว่า 40 ราย ให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปสามารถหาข้อมูลและติดต่อได้โดยตรง +การจัดงานฯ ในครั้งนี้ คาดหวังสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนและภาครัฐ ได้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศไทย รวมทั้งการยอมรับสินค้าและบริการฮาลาล สามารถต่อยอดและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับประชาชน  และยังสามารถพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการเพื่อการส่งออก รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจสินค้าและบริการฮาลาลระหว่างประเทศ ผลักดันประเทศไทยให้เป็นผู้นําด้านการผลิตและการส่งออกสินค้าฮาลาลในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Halal Hub) ภายในปี 2570 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87792 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _2_16dd0c4f-c3e3-4ea1-9774-97d5858232d6.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _2_16dd0c4f-c3e3-4ea1-9774-97d5858232d6.txt" new file mode 100644 index 00000000..08e4b7bd --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _2_16dd0c4f-c3e3-4ea1-9774-97d5858232d6.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ผู้ช่วยปลัดฯ ณิรดา ประชุมคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2567 + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +ผู้ช่วยปลัดฯ ณิรดา ประชุมคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2567 +ผู้ช่วยปลัดฯ ณิรดา ประชุมคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2567 +3 กันยายน 2567 นางสาวณิรดา วิสุทธิชาติธาดา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประชุมคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประจำปี 2567 ประเภทการบริหารจัดการที่ดี รอบที่ 1 โดยมีนายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน นายดุสิต อนันตรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นางเปมิกา ปาลวัฒน์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและคณะทำงาน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม อก.3 สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม +โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติทั้ง 9 ราย ตามหลักเกณฑ์การพิจารณา เพื่อเข้ารับการคัดเลือกอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2567 ประเภทการบริหารจัดการที่ดี และการลงพื้นที่ตรวจประเมินผู้ประกอบการ ณ สถานประกอบการ รอบที่ 2 ต่อไป ทั้งนี้การคัดเลือกอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น เป็นกิจกรรมสำคัญที่กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญ เนื่องจาก SMEs มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ การคัดเลือกและยกย่องเชิดชูผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ และเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและเติบโตของภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87793 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _3_fde3789e-f313-4416-b076-6a0b78f9732e.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _3_fde3789e-f313-4416-b076-6a0b78f9732e.txt" new file mode 100644 index 00000000..38616df6 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _3_fde3789e-f313-4416-b076-6a0b78f9732e.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปลัดฯ ณัฐพล รับมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค เตรียมแพค “ถุงยิ้มพิมพ์ใจ MIND ไม่ทิ้งกัน” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +ปลัดฯ ณัฐพล รับมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค เตรียมแพค “ถุงยิ้มพิมพ์ใจ MIND ไม่ทิ้งกัน” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม +ปลัดฯ ณัฐพล รับมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค เตรียมแพค “ถุงยิ้มพิมพ์ใจ MIND ไม่ทิ้งกัน” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม +ด้วยในปัจจุบัน ประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ทำให้เกิดมรสุม มีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุทกภัย สร้างความเสียหายต่อการดำรงชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและสถานประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่ +กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เพื่อรวมใจส่งมอบรอยยิ้ม ให้กับประชาชน ภายใต้โครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย” โดยในวันที่ 2 กันยายน 2567 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค และของใช้ที่จำเป็น เพื่อเตรียมแพคเป็น “ถุงยิ้มพิมพ์ใจ MIND ไม่ทิ้งกัน” เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัย โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ที่ได้รับความอนุเคราะห์ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา ขนม และยารักษาโรค จากผู้ประกอบการ ได้แก่ บริษัท โรงโม่หินทวีทรัพย์อนันต์มหานคร จำกัด บริษัท ผลิตภัณฑ์ศิลาแสนสุข จํากัด บริษัท เอส.เอส.(1995) การศิลา บริษัท ปรินดา จํากัด บริษัท สุวลี จํากัด บริษัท อารักษ์เทรดดิ้ง จํากัด บริษัท สโตนวัน จํากัดบริษัท โรงโม่หินศิลามหานคร จํากัด บริษัท โรงโม่หินแกรนิตไทย จํากัด บริษัท โรงโม่หินพิบูลย์รัตน์ จํากัด บริษัท อิงอรซัพพลาย จํากัด บริษัท เจ.โอ.บี.คอนสตรัคชั่น จำกัด บริษัท ศิลาพรชัย จำกัด บริษัท สยามสโตน แอ๊กกริเกรท จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิลาสินทรัพย์สมุทร บริษัท เก้าหลักชัย จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ว.พิบูลย์กิจ บริษัท ทัศนาชลบุรี จำกัด บริษัท บุญศิลารัตน์ จำกัด บริษัท สินทรัพย์ศิลา จำกัด บริษัท ศิลาธนดล จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิลาอุตสาหกรรม บริษัท อาภานนท์ เบฟเวเรจ จำกัด บริษัท ซีน่า วอเตอร์ จำกัด บริษัท สยามเพียวเฟรช จำกัด และบริษัท วินมิลด์ สแครพ จำกัด +ทั้งนี้ การดำเนินการโครงการอุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย เพื่อจัดทำถุงยิ้มพิมพ์​ใจ MIND ไม่ทิ้งกัน ซึ่งภายในจะบรรจุเครื่องอุปโภค​บริโภค​และสิ่งของจำเป็น เป็นถุงยังชีพที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม​ทั่วประเทศ​ที่รวมใจส่งมอบรอยยิ้ม เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัย​ในการก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87794 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _4_c1b56c9f-bd67-4240-86d9-ad6f1b2419a8.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _4_c1b56c9f-bd67-4240-86d9-ad6f1b2419a8.txt" new file mode 100644 index 00000000..852a2d42 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _4_c1b56c9f-bd67-4240-86d9-ad6f1b2419a8.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“พิมพ์ภัทรา” เผยตัวเลขการผลิตน้ำตาลทรายของไทยปี 67 กำชับ สอน. ดูแลปริมาณให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +“พิมพ์ภัทรา” เผยตัวเลขการผลิตน้ำตาลทรายของไทยปี 67 กำชับ สอน. ดูแลปริมาณให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ +“พิมพ์ภัทรา” เผยตัวเลขการผลิตน้ำตาลทรายของไทยปี 67 กำชับ สอน. ดูแลปริมาณให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ +“พิมพ์ภัทรา” เผยฤดูการผลิตปี 2566/67 ไทยผลิตน้ำตาลทรายได้ 8.80 ล้านตัน ในครึ่งปีแรกของปี 67 ไทยใช้น้ำตาลไปแล้ว 1.27 ล้านตัน แบ่งเป็น น้ำตาลที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม 0.52 ล้านตัน และน้ำตาลที่ใช้ในการบริโภคโดยตรง 0.75 ล้านตัน โดยข้อมูล ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2567 ไทยมีน้ำตาลเพื่อบริโภคภายในประเทศคงเหลือ 1.77 ล้านตัน และคาดว่าในเดือนกันยายน - ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตถัดไป ไทยจะใช้น้ำตาลเพียง 0.80 ล้านตัน เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ +นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลการผลิตอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยปี 2567 จากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) โดยในฤดูการผลิตปี 2566/67 ที่ผ่านมา มีปริมาณอ้อยเข้าหีบจำนวน 82.17 ล้านตัน มีผลผลิตน้ำตาลทราย 8.80 ล้านตัน โดยในครึ่งปีแรกของปี 2567 (มกราคม - มิถุนายน 2567) ไทยใช้น้ำตาลเพื่อบริโภคภายในประเทศ 1.27 ล้านตัน แบ่งออกเป็น น้ำตาลที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม 0.52 ล้านตัน และน้ำตาลที่ใช้ในการบริโภคโดยตรง (รวมร้านยี่ปั๊วและห้างโมเดิร์นเทรด) 0.75 ล้านตัน โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2567 ไทยมีน้ำตาลเพื่อบริโภคภายในประเทศคงเหลือ 1.77 ล้านตัน และ สอน. ได้คาดการณ์ว่าระหว่างเดือนกันยายน - ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตถัดไป ไทยจะใช้น้ำตาลเพื่อบริโภคภายในประเทศ 0.8 ล้านตัน ซึ่งตนได้กำชับให้ สอน. ดูแลปริมาณน้ำตาลให้เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ +นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า สอน. ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลในการดูแลปริมาณน้ำตาลให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ โดย สอน. ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ประจำโรงงานน้ำตาลทั้ง 57 โรงทั่วประเทศ รายงานปริมาณน้ำตาลคงเหลือส่งให้ สอน. เป็นประจำทุกวัน ปัจจุบัน ราคาขายหน้าโรงงานอยู่ที่ 21 - 22 บาท/กิโลกรัม (ไม่รวมค่าโลจิสติกส์และ VAT) ราคาขายปลีกตามห้างโมเดิร์นเทรดอยู่ที่ 27 - 28 บาท/กิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่เป็นไปตามกลไกการตลาดที่จะต้องมีการบวกเพิ่มค่าการตลาดและค่าบรรจุภัณฑ์ +“ถือว่าเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล) ที่ต้องการรักษาเสถียรภาพความมั่นคงทางอาหาร เนื่องจากน้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม +ซึ่ง สอน. จะบริหารจัดการการจำหน่ายเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะมีปริมาณน้ำตาลทรายเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ” นายวิฤทธิ์กล่าวปิดท้าย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87795 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _5_f6def231-2bad-4116-a492-78a69459b88b.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _5_f6def231-2bad-4116-a492-78a69459b88b.txt" new file mode 100644 index 00000000..ba045f36 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _5_f6def231-2bad-4116-a492-78a69459b88b.txt" @@ -0,0 +1,22 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-1 ปี บนเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” พลิกอุตสาหกรรมไทย ด้วยนโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมส่งไม้ต่อ รัฐมนตรีฯ คนใหม่ + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +1 ปี บนเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” พลิกอุตสาหกรรมไทย ด้วยนโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมส่งไม้ต่อ รัฐมนตรีฯ คนใหม่ +1 ปี บนเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” พลิกอุตสาหกรรมไทย ด้วยนโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมส่งไม้ต่อ รัฐมนตรีฯ คนใหม่ +“รมว.พิมพ์ภัทรา” สรุปผลงาน 1 ปี กับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยด้วยนโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” อย่างเป็นรูปธรรม รื้อกฎระเบียบให้เอื้อต่อการประกอบกิจการ ลดความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม กวาดล้างสินค้าผิดกฎหมายปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ ผลักดันอุตสาหกรรมไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ปลดล็อกภาระผู้ประกอบการ เร่งสร้างอุตสาหกรรมใหม่ สร้างรายได้ สร้างคน ตอบโจทย์ตลาดโลก พร้อมส่งไม้ต่อให้นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรมคนใหม่ต่อไป +4 กันยายน 2567 - นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในช่วง 1 ปี ของการเข้ามาบริหารงานในตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม ตนได้ขับเคลื่อนนโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นแนวทางในการพลิกอุตสาหกรรมไทยที่รองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยรื้อ คือ เร่งรื้อปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้เอื้อต่อการประกอบกิจการอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น โดยการ ออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) ที่คงค้างแล้วเสร็จ จำนวน 187 คำขอ ทำให้เกิดการลงทุนเพิ่ม 12,000 ล้านบาท และดำเนินการออกใบอนุญาตที่ขอใหม่ภายใต้กรอบระยะเวลาที่กำหนด ตลอดจนการแก้ไขปัญหาผังเมือง เพื่อให้เกิดการลงทุนการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ +ลด คือการลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการประกอบการ โดยเร่งดำเนินการจัดการกากอุตสาหกรรม ให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน  ช่วยเหลือชาวไร่อ้อยและสนับสนุนอุตสาหกรรมน้ำตาล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผ่านมาตรการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ดูแลพื้นที่เพาะปลูกอ้อยที่ไม่มีการลักลอบเผา และการช่วยเหลือโรงงานน้ำตาลที่ไม่รับอ้อยลักลอบเผา เพื่อแก้ปัญหา PM 2.5 +ขณะเดียวกันได้กำชับให้มีการ ตรวจ กำกับดูแลโรงงาน/วัตถุอันตราย และการจดทะเบียนเครื่องจักรจำนวน 28,869 โรง ทั่วประเทศ รวมถึงยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อให้อุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยมีจำนวนโรงงานได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ร้อยละ 87.66 จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 90 ของจำนวนโรงงานทั้งหมดที่แจ้งประกอบการ ตลอดจนส่งเสริมการทำเหมืองแร่ในเมือง (Urban Mining) เพื่อสร้าง/ ขยายเครือข่ายการนำขยะหรือของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ +ในรอบ 1 ปี ทีผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้เดินหน้ากวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพให้หมดไปจากท้องตลาด อย่างเข้มข้นและต่อเนื่องในทุกช่องทาง พร้อมทั้งเร่งกำหนดมาตรฐานเพื่อสร้างความสามารถการแข่งขันในทุกเวทีการค้า และเป็นกลไกสกัดสินค้าด้อยคุณภาพเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ และคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยมีมูลค่าการตรวจจับ ยึด-อายัดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน +นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยการผลักดันการจัดตั้งนิคม Circular แห่งแรกของไทยในพื้นที่ EEC โดยมุ่งหวังให้เป็นพื้นที่เป้าหมายของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และก่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนการพัฒนานิคม Smart Park เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ การแพทย์ หุ่นยนต์ และดิจิทัล รวมทั้งได้เร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า/จักรยานยนต์ไฟฟ้า Solar Rooftop และอุตสาหกรรม Recycle เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน สอดรับกับนโยบายส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยแนวคิด BCG โดยแบ่งเป็น การส่งเสริมและพัฒนา SMEs ตามแนวทาง BCG จำนวน 1,500 ราย 300 กิจการ 200 ผลิตภัณฑ์ 5 กลุ่ม และ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐานได้รับการส่งเสริมด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม 600 ราย และผู้ประกอบการนักลงทุนที่สนใจได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้ 950 ราย +กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรดิจิทัลเพื่อให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถพัฒนาระบบการรับชำระเงินกลางของบริการภาครัฐ (E-Payment) ให้มีรายรับการชำระเงิน สูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ ยอดรวมการรับชำระเงิน สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ และได้จัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติ “อุตสาหกรรมรวมใจ ลดคาร์บอนไทย 7.2 ล้านตัน” ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และฝุ่น PM 2.5 สู่ชั้นบรรยากาศ ผ่านกิจกรรม 8 ด้าน รวม 298 กิจกรรม รวมถึงการจัดตั้งศูนย์บริหารภาวะฉุกเฉินจากการประกอบการที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อก. (ศบฉ.) เพื่อจัดทำแผนป้องกันและบรรเทาอุบัติภัยจากโรงงานอุตสาหกรรมอีกด้วย +สำหรับนโยบาย “ปลด” คือ การปลดภาระให้ผู้ประกอบการ โดยการส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานสะอาด ปลดล็อกการติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา หรือโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ไม่เข้าข่ายโรงงานที่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ และรองรับความต้องการใช้พลังงานของภาคธุรกิจหรือบริษัทข้ามชาติที่ต้องการขยายการลงทุนหรือย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย และได้พัฒนาระบบรับชำระเงินค่าภาคหลวงแร่ ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ตลอดจนระบบการออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ +1 ปีที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น โดยปล่อยสินเชื่อลดโลกร้อน Decarbonize Loan กว่า 1,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ที่มีความตั้งใจในการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน และได้ผลักดันเหมืองแร่โปแตช เพื่อส่งเสริมการผลิตปุ๋ยภายในประเทศ ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลิตผลทางการเกษตรให้เกษตรกร และได้จัดสรรผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเป็นเงินที่จัดเก็บในขั้นตอนการออกอาชญาบัตร และประทานบัตรเหมืองแร่ คาดว่าจะสามารถจัดสรรผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐ จำนวน 526.71 ล้านบาท +นอกจากนี้ยังได้เร่งส่งเสริม MSMEs ให้มีศักยภาพและแข่งขันได้ จำนวน 5,940 ราย 1,320 กิจการ 37 กลุ่ม/ เครือข่าย 520 ผลิตภัณฑ์ สามารถยกระดับนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรครบวงจรพัฒนาเพิ่มผลิตภาพอ้อย จำนวน 4,000 ราย 1,480 กิจการ 30 กลุ่ม และส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้มีรายได้เพิ่ม โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน/ แปรรูปสินค้าเกษตร ส่งเสริม/ พัฒนาผู้ประกอบการ 4,780 ราย 428 ผลิตภัณฑ์ +ในส่วนของนโยบาย “สร้าง” นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ได้เร่งสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร (Food for the Future) อุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร และปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของโลก โดยการพัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพเพิ่มเติม ได้แก่ อุตสาหกรรมฮาลาล มีการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาล และคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ และได้จัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2567-2570) ทั้งนี้ คาดว่า มูลค่า GDP ภาคอุตสาหกรรม จะเพิ่มขึ้น 55,000 ล้านบาท ภายในปี 2570 ส่งผลให้แรงงานในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 100,000 คน/ ปี และมีมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ฮาลาล เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อปี นอกจากนี้ยังได้ผลักดันนโยบายการพัฒนาโกโก้สู่การเป็น ASEAN COCOA HUB เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน และมีกระบวนการผลิตสู่สินค้าพรีเมียมยกระดับผู้ผลิตไทยในตลาดโลก อย่างไรก็ตามการจะพัฒนาไปสู่ระดับโลกได้นั้น เศรษฐกิจฐานรากต้องแข็งแรง กระทรวงอุตสาหกรรมได้เดินหน้าเปลี่ยนชุมชนให้ดีพร้อม โดยการสร้างโมเดลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากทั่วประเทศเพื่อยกระดับรายได้ของประชาชนทั่วประเทศให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น “กำไรเพิ่ม รายได้เพิ่ม ธุรกิจชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน” +กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ 1 ปีที่ผ่านมาได้ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไทยมีศักยภาพและนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์และลดการนำเข้า เพื่อสร้างฐานรายได้ใหม่ให้กับประเทศและประชาชน นอกจากนี้ได้พัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) งานก่อสร้าง (Construction) จะมีความก้าวหน้าในภาพรวม คิดเป็นร้อยละ 95.00 ขณะเดียวกันได้พัฒนาผู้ประกอบการและบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมและบริหารแห่งอนาคต 1,508 ราย 159 กิจการ 3 เครือข่าย 20 ต้นแบบ 28 ผลิตภัณฑ์ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87796 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _6_e3c83da8-4961-4efa-8497-03101af1c12e.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _6_e3c83da8-4961-4efa-8497-03101af1c12e.txt" new file mode 100644 index 00000000..63225257 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _6_e3c83da8-4961-4efa-8497-03101af1c12e.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​ก.อุตฯ รวมพลัง “อุตสาหกรรมรวมใจ” ส่งมอบ “ถุงยังชีพ MIND ไม่ทิ้งกัน” ให้ประชาชนชาวแพร่ ระดมทีมเข้าซ่อมแซม ฟื้นฟูโรงงาน ธุรกิจ พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือ + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +​ก.อุตฯ รวมพลัง “อุตสาหกรรมรวมใจ” ส่งมอบ “ถุงยังชีพ MIND ไม่ทิ้งกัน” ให้ประชาชนชาวแพร่ ระดมทีมเข้าซ่อมแซม ฟื้นฟูโรงงาน ธุรกิจ พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือ +​ก.อุตฯ รวมพลัง “อุตสาหกรรมรวมใจ” ส่งมอบ “ถุงยังชีพ MIND ไม่ทิ้งกัน” ให้ประชาชนชาวแพร่ ระดมทีมเข้าซ่อมแซม ฟื้นฟูโรงงาน ธุรกิจ พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยในผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน +ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม บริษัท ไทยเอเชียไรซ์ โปรดักส์ จำกัด ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเส้นก๋วยเตี๋ยวอบแห้งจากข้าวที่มีคุณภาพ จำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่ผ่านมา ส่งผลให้โรงงาน เครื่องจักร วัตถุดิบ และสินค้าเพื่อจำหน่ายได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก อก. จึงได้นำถุงยังชีพ MIND ไม่ทิ้งกัน มอบเป็นกำลังใจให้กับสถานประกอบการและประชาชนในพื้นที่รอบโรงงานให้ก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณหน่วยงานในสังกัด อก. ภาคเอกชน สถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ที่ให้ความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจให้การสนับสนุนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นผ่านโครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย”จัดทำเป็นถุงยังชีพ MIND ไม่ทิ้งกัน ซึ่งภายในจะบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำปลา น้ำมัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำตาล น้ำดื่ม ทิชชู ยารักษาโรค เป็นต้น +ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการให้ สอจ.แพร่ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม​ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สถาบันอาหาร เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยให้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ ทีมวิศวกร หรือช่างชุมชนของโครงการอาชีพช่าง เข้าปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟู เครื่องจักร ระบบไฟฟ้า พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าประเมินสภาพปัญหาให้คำปรึกษาปัญหาธุรกิจ วางแผน ฟื้นฟูสถานประกอบการ ผ่านศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรมดีพร้อม (DIPROM BSC) ให้คำปรึกษาฟื้นฟูกระบวนการผลิต ระบบคุณภาพ GMP/HACCP/GHP  มาตรฐานความปลอดภัยผ่านศูนย์ DIPROM Center ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนสามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างปกติโดยเร็ว +“ผู้ประกอบการสามารถแจ้งความประสงค์ในการสนับสนุนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นได้ที่สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ หรือส่วนภูมิภาคผ่านสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ” ปลัดฯ ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87797 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _7_44c9183c-16fa-4258-b7ed-3fde43f436f4.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _7_44c9183c-16fa-4258-b7ed-3fde43f436f4.txt" new file mode 100644 index 00000000..b344c5e9 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _7_44c9183c-16fa-4258-b7ed-3fde43f436f4.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​ปลัดฯ ณัฐพล รวมพลังทีม MIND ส่งความช่วยเหลือถึงผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือโดยเร่งด่วน + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +​ปลัดฯ ณัฐพล รวมพลังทีม MIND ส่งความช่วยเหลือถึงผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือโดยเร่งด่วน +​ปลัดฯ ณัฐพล รวมพลังทีม MIND ส่งความช่วยเหลือถึงผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือโดยเร่งด่วน +วันที่ 4 กันยายน 2567 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ส่งมอบรอยยิ้ม ให้กับประชาชน ภายใต้โครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย” ส่งมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค และของใช้ที่จำเป็น เพื่อส่งความช่วยเหลือถึงผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือโดยเร่งด่วน โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณิรดา วิสุทธิชาติธาดา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอานันท์ ฟักสังข์ รักษาราชการแทนรองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และคณะผู้บริหาร ข้าราชการ กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม ณ บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม +ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ดำเนินการโครงการอุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย จัดทำถุงบรรจุเครื่องอุปโภค​บริโภค​และสิ่งของจำเป็น เป็นถุงยังชีพที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม​ทั่วประเทศ​ที่รวมใจส่งมอบรอยยิ้ม เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัย​ในการก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87798 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _8_79522356-b0d2-4a09-b882-e64e09a67eb1.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _8_79522356-b0d2-4a09-b882-e64e09a67eb1.txt" new file mode 100644 index 00000000..15fb5f48 --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _8_79522356-b0d2-4a09-b882-e64e09a67eb1.txt" @@ -0,0 +1,11 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​ปลัดฯ ณัฐพล ร่วมแสดงความยินดี วันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 33 ปี สำนักงานเศรฐกิจอุตสาหกรรม + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +​ปลัดฯ ณัฐพล ร่วมแสดงความยินดี วันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 33 ปี สำนักงานเศรฐกิจอุตสาหกรรม +​ปลัดฯ ณัฐพล ร่วมแสดงความยินดี วันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 33 ปี สำนักงานเศรฐกิจอุตสาหกรรม +วันที่ 5 กันยายน 2567 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมเป็นเกียรติแสดงความยินดีในวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 33 ปี สำนักงานเศรฐกิจอุตสาหกรรม โดยมี นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นางศิริเพ็ญ เกียรติเฟื่องฟู นายกฤษ จันทร์สุวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับ ณ อาคารสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87799 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _9_abbb182d-28da-4385-b369-32c651b2d93f.txt" "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _9_abbb182d-28da-4385-b369-32c651b2d93f.txt" new file mode 100644 index 00000000..0e1887ce --- /dev/null +++ "b/data/2024/09/08/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _9_abbb182d-28da-4385-b369-32c651b2d93f.txt" @@ -0,0 +1,16 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปลัดฯ ณัฐพล แสดงกตเวทิตาจิตแด่ผู้เกษียณอายุราชการ อก. ปี 67 ชื่นชมทุกท่านคือผู้ทรงคุณค่าของกระทรวงอุตสาหกรรม + + +วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 +07/09/2567 +พิมพ์ +ปลัดฯ ณัฐพล แสดงกตเวทิตาจิตแด่ผู้เกษียณอายุราชการ อก. ปี 67 ชื่นชมทุกท่านคือผู้ทรงคุณค่าของกระทรวงอุตสาหกรรม +ปลัดฯ ณัฐพล แสดงกตเวทิตาจิตแด่ผู้เกษียณอายุราชการ อก. ปี 67 ชื่นชมทุกท่านคือผู้ทรงคุณค่าของกระทรวงอุตสาหกรรม +วันที่ 5 กันยายน 2567 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในงานแสดงกตเวทิตาจิตแด่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) ประจำปี 2567” โดยมี นายเอกภัทร วังสุวรรณ นายบรรจง สุกรีฑา นายใบน้อย สุวรรณชาตรี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเดชา จาตุธนานันท์ นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์  อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมงาน ณ ห้องประชุม ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม +นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงานถึงการจัดงานแสดงกตเวทิตาจิตแด่ผู้เกษียณอายุราชการ อก. เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด อก. ที่ได้ทุ่มเทกำลังสติปัญญาร่วมกันพัฒนากระทรวงอุตสาหกรรมให้มีความเจริญก้าวหน้าและเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนประเทศชาติ โดยในปี 2567 มีผู้บริหารครบเกษียณอายุราชการ จำนวน 7 ท่าน ประกอบด้วย นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชกระทรวงอุตสาหกรรม นายวีระกิตติ์ รันทกิจธนวิชญ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นางศิริเพ็ญ เกียรติเฟื่องฟู รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายวาที พีระวรานุพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย +รวมทั้ง ยังมีบุคลากร อก. ที่เป็นกำลังสำคัญและได้ปฏิบัติงานอุทิศตนในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศจนครบวาระเกษียณ รวมทั้งสิ้น 169 ท่าน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 52 ท่าน กรมโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 21 ท่าน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จำนวน 26 ท่าน กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จำนวน 20 ท่าน สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม จำนวน 5 ท่าน +สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จำนวน 4 ท่าน สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จำนวน 11 ท่าน และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จำนวน 30 ท่าน และในครั้งนี้มีผู้เกษียณที่เข้าร่วมงานแสดงกตเวทิตาจิต จำนวน 67 ท่าน +ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติราชการของทุกท่านที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นถึงผลงานที่ได้สร้างสรรค์ไว้อย่างชัดเจน การปฏิบัติราชการของท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ รวมทั้งความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งได้สร้างประโยชน์ทั้งต่อประชาชนและชาติบ้านเมือง ท่านจึงเป็นผู้ทรงคุณค่าต่อกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งเป็นแบบอย่างให้ข้าราชการรุ่นใหม่นำประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และแนวทางปฏิบัติอันดีมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการ +ผมขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณเพื่อนข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมทุกท่าน ที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคอย่างเต็มกำลังความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ นโยบายต่าง ๆ ที่สำเร็จลุล่วงและเกิดผลเป็นรูปธรรมล้วนมาจากท่านทั้งหลาย ทุกท่านจึงเป็นส่วนสำคัญที่พัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โอกาสนี้ ผมขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลที่ท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลประทานพรให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ธำรงไว้ซึ่งคุณงามความดีอันเป็นเครื่องหมายแสดงคุณค่าของท่านสืบไป + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87800 \ No newline at end of file diff --git a/last_num.txt b/last_num.txt index 997b2bb2..0a30a5bb 100644 --- a/last_num.txt +++ b/last_num.txt @@ -1 +1 @@ -87792 \ No newline at end of file +87813 \ No newline at end of file